จากการติดตามระยะไกลแบบเดิมไปจนถึงการอัปเกรดแบบก้าวกระโดดของ “แพลตฟอร์มความเป็นเพื่อนทางอารมณ์ + การจัดการสุขภาพ” กล้องสัตว์เลี้ยงที่ใช้ AI กำลังสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันก็เร่งเข้าสู่ตลาดกล้องระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์
ตามการวิจัยตลาด พบว่าขนาดตลาดอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงอัจฉริยะระดับโลกมีมูลค่าเกิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และขนาดตลาดอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงอัจฉริยะระดับโลกมีมูลค่าแตะ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น 19.5% ระหว่างปี 2024 ถึงปี 2034
ขณะเดียวกัน คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงถึงมากกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2568 โดยตลาดอเมริกาเหนือมีสัดส่วนเกือบ 40% รองลงมาคือยุโรป ในขณะที่เอเชีย โดยเฉพาะตลาดจีน มีโมเมนตัมการเติบโตเร็วที่สุด
จะเห็นได้ว่า “เศรษฐกิจสัตว์เลี้ยง” นั้นแพร่หลาย และเงินปันผลจากผลิตภัณฑ์ขายดีเฉพาะกลุ่มในเส้นทางย่อยนั้นก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น
สินค้าขายดีเกิดบ่อย
กล้องสัตว์เลี้ยงดูเหมือนจะกลายเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่ต้องมี” สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้แสดงอารมณ์ของตนเอง และมีหลายยี่ห้อที่เกิดขึ้นในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบัน แบรนด์ในประเทศได้แก่ EZVIZ, Xiaomi, TP-LINK, Xiaoyi, Haipu ฯลฯ และแบรนด์ต่างประเทศได้แก่ Furbo, Petcube, Arlo ฯลฯ
โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่แล้ว Furbo ซึ่งเป็นแบรนด์หลักของกล้องสัตว์เลี้ยงอัจฉริยะ ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการสร้างกระแสกล้องสัตว์เลี้ยง ด้วยปัญญาประดิษฐ์ การตรวจสอบวิดีโอความละเอียดสูง ระบบเสียงสองทางแบบเรียลไทม์ สัญญาณเตือนอัจฉริยะ ฯลฯ ทำให้ Furbo กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำในด้านอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงอัจฉริยะ
มีรายงานว่ายอดขายของ Furbo บนสถานี Amazon US ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในกลุ่มกล้องสัตว์เลี้ยง โดยขายได้เฉลี่ยหนึ่งเครื่องต่อนาที ซึ่งขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆ ของรายการ BS ในครั้งเดียว และมียอดความเห็นสะสมมากกว่า 20,000 รายการ
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่เน้นความคุ้มราคาอย่าง Petcube ก็สามารถทะลุเป้าด้วยคะแนนชื่อเสียงที่ดี 4.3 คะแนน และมีราคาขายต่ำกว่า 40 เหรียญสหรัฐ
เป็นที่เข้าใจกันว่า Petcube ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เป็นอย่างมาก และได้ปรับโฉมมาตรฐานอุตสาหกรรมด้วยข้อได้เปรียบทางเทคนิค เช่น การติดตามรอบด้าน 360° การป้องกันความเป็นส่วนตัวทางกายภาพ และการเชื่อมต่อทางอารมณ์ข้ามมิติ
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ นอกจากเลนส์ความละเอียดสูงและการโต้ตอบด้วยเสียงสองทางแล้ว กล้องนี้ยังมีความสามารถมองเห็นตอนกลางคืนที่ดีอีกด้วย โดยใช้เทคโนโลยีอินฟราเรด ทำให้สามารถมองภาพได้ชัดเจนในระยะ 30 ฟุตในสภาพแวดล้อมที่มืด
นอกจากสองแบรนด์ข้างต้นแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ระดมทุน Siipet อีกด้วย เนื่องจากมีฟังก์ชันพิเศษ เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรม ราคาปัจจุบันบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Siipet คือ 199 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ราคาบนแพลตฟอร์ม Amazon คือ 299 ดอลลาร์สหรัฐ
เป็นที่เข้าใจกันว่าการใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงทำให้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถตีความพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งกล้องสัตว์เลี้ยงทั่วไปไม่สามารถเทียบได้ ตัวอย่างเช่น การจับภาพและวิเคราะห์ข้อมูลหลายมิติ เช่น การเคลื่อนไหว ท่าทาง การแสดงออก และเสียงของสัตว์เลี้ยง ทำให้สามารถตัดสินสภาวะทางอารมณ์ของสัตว์เลี้ยงได้อย่างแม่นยำ เช่น ความสุข ความวิตกกังวล ความกลัว เป็นต้น และยังสามารถตรวจจับความเสี่ยงต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้ เช่น มีอาการปวดทางกายหรือมีอาการป่วยในระยะเริ่มต้นหรือไม่
นอกจากนี้ การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวยังถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถแข่งขันในตลาดระดับกลางถึงระดับสูงได้อีกด้วย
เวลาโพสต์ : 28 ก.พ. 2568