ในขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมความปลอดภัยก็ขยายออกไปเกินขอบเขตแบบเดิม แนวคิดเรื่อง “ความปลอดภัยโดยรวม” ได้กลายเป็นกระแสที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งสะท้อนถึงการบูรณาการความปลอดภัยในหลายอุตสาหกรรม
เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ บริษัทต่างๆ ในภาคส่วนความปลอดภัยต่างๆ ได้สำรวจสถานการณ์การใช้งานทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมาอย่างแข็งขัน แม้ว่าพื้นที่แบบเดิมๆ เช่น การเฝ้าระวังวิดีโอ เมืองอัจฉริยะ และการดูแลทางการแพทย์อัจฉริยะยังคงมีความสำคัญ แต่สาขาใหม่ๆ เช่น ที่จอดรถอัจฉริยะ ความปลอดภัยของ IoT บ้านอัจฉริยะ ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการดูแลผู้สูงอายุ กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อมองไปถึงปี 2025 คาดว่าสถานการณ์การใช้งานเหล่านี้จะกลายเป็นสนามรบหลักสำหรับธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะผลักดันทั้งนวัตกรรมและการเติบโตของรายได้
สถานการณ์การใช้งานที่สำคัญ
1. การตรวจสอบความปลอดภัยอัจฉริยะ
ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการตรวจสอบความปลอดภัยในศูนย์กลางการขนส่งสาธารณะหลักทั่วโลก การตรวจสอบความปลอดภัยด้วยมือแบบเดิมกำลังถูกแทนที่ด้วยระบบตรวจสอบอัตโนมัติอัจฉริยะ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ตัวอย่างเช่น สนามบินในสหรัฐอเมริกาและยุโรปกำลังบูรณาการระบบการจดจำที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ากับเครื่องสแกนความปลอดภัยด้วยรังสีเอกซ์แบบเดิม ระบบเหล่านี้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ภาพรังสีเอกซ์ ทำให้สามารถตรวจจับสิ่งของต้องห้ามได้โดยอัตโนมัติและลดการพึ่งพาผู้ตรวจสอบที่เป็นมนุษย์ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดข้อผิดพลาดของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดภาระงานที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากอีกด้วย จึงช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยโดยรวม
2. เครือข่ายวิดีโอ
การบูรณาการ AI เข้ากับเครือข่ายวิดีโอช่วยผลักดันนวัตกรรม และเปิดโอกาสใหม่ๆ ในภาคส่วนต่างๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยชุมชน การตรวจสอบร้านค้าปลีก และการเฝ้าระวังในพื้นที่ชนบท
ด้วยการพัฒนาของโซลูชันเครือข่ายวิดีโอแบบหลายมิติ อุตสาหกรรมกำลังสำรวจเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น กล้องพลังงานแสงอาทิตย์ 4G ที่ประหยัดพลังงาน กล้องสีเต็มรูปแบบพลังงานต่ำ และระบบเฝ้าระวังไร้สาย WiFi และ 4G ที่ไร้รอยต่อ
การนำเครือข่ายวิดีโอมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในโครงสร้างพื้นฐานในเมือง ระบบขนส่ง และพื้นที่อยู่อาศัย ถือเป็นโอกาสในการขยายตลาดที่สำคัญ โดยพื้นฐานแล้ว เครือข่ายวิดีโอเป็นการผสมผสานระหว่าง “เครือข่าย + เทอร์มินัล” ปัจจุบัน กล้องเป็นเทอร์มินัลรวบรวมข้อมูลที่จำเป็น โดยสามารถส่งข้อมูลเชิงลึกไปยังผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์พกพา คอมพิวเตอร์ และหน้าจอขนาดใหญ่ ช่วยให้จัดการความปลอดภัยได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น
3. การเงินอัจฉริยะ
ความปลอดภัยทางการเงินยังคงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในขณะที่ธนาคารดิจิทัลขยายตัว โซลูชันการเฝ้าระวังวิดีโอขั้นสูงถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องสาขาธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ห้องนิรภัย และศูนย์จัดการความเสี่ยงทางการเงิน
ระบบจดจำใบหน้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI การเฝ้าระวังแบบความละเอียดสูง และระบบแจ้งเตือนการบุกรุกช่วยเพิ่มการปกป้องทรัพย์สินทางการเงินและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนช่วยในการจัดตั้งกรอบความปลอดภัยที่ครอบคลุมหลายชั้น ซึ่งรับประกันความปลอดภัยทางการเงินที่มั่นคงท่ามกลางปริมาณธุรกรรมดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น
4. สมาร์ทสปอร์ต
การผสมผสานระหว่าง IoT และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบนมือถือกำลังปฏิวัติวงการกีฬา ขณะที่ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โซลูชันกีฬาอัจฉริยะก็มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับนักกีฬาและแฟนๆ
การวิเคราะห์กีฬาที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถเปิดโอกาสให้นักกีฬารุ่นเยาว์ได้เรียนรู้จากมืออาชีพชั้นนำโดยการสร้างข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยสนับสนุนการค้นหาผู้เล่นในระยะยาว การพัฒนาทักษะ และโปรแกรมการฝึกอบรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยการสร้างโปรไฟล์ผู้เล่นดิจิทัล นอกจากนี้ การติดตามประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการพัฒนาทักษะที่มากขึ้นในหมู่นักกีฬารุ่นเยาว์อีกด้วย
มองไปข้างหน้าถึงปี 2025
ปี 2025 นำมาซึ่งทั้งโอกาสอันยิ่งใหญ่และความท้าทายอันยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมความปลอดภัย เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต่างๆ จะต้องปรับปรุงความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
การส่งเสริมนวัตกรรมและการเสริมสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถสร้างสังคมที่ปลอดภัยและชาญฉลาดมากขึ้นได้ อนาคตของความปลอดภัยในปี 2025 จะถูกหล่อหลอมโดยผู้ที่ยังคงกระตือรือร้น ปรับตัว และมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
เวลาโพสต์ : 01-02-2025